หัวข้อ : จับตา 4 เทรนด์ร้อนไอทีไทยในงานคอมมาร์ต
|
จุดพลุแล้วสำหรับงานแฟร์ไอทีงานใหญ่ของไทย คอมมาร์ต คอมเทค ไทยแลนด์ 2012 สิ่งที่น่าสนใจคืองานนี้สามารถสะท้อนทิศทางตลาดไอทีไทยครึ่งปีหลังถึงปีหน้าได้อย่างชัดเจน ซึ่งทั้งหมดเป็นเทรนด์ร้อนที่คนไทยหัวใจไอทีไม่ควรพลาด
- ไลเซนส์วินโดวส์ 8 ขายกระฉูด
ปฐม อินทโรดม กรรมการบริหารและผู้จัดการทั่วไป บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ผู้จัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าไอทีภายใต้ชื่อ คอมมาร์ต เชื่อว่าลิขสิทธิ์ใช้งานระบบปฎิบัติการวินโดวส์ 8 ใหม่ล่าสุดจะติดอันดับสินค้าขายดีตลอดการจัดงานครั้งนี้ ผลจากโปรโมชันที่ไมโครซอฟท์ประเทศไทยนำมาเปิดตลาด และอุปกรณ์ไอทีระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8 ที่จำหน่ายพร้อมไลเซนส์ใช้งานซอฟต์แวร์ถูกลิขสิทธิ์
งานนี้ไมโครซอฟท์ชูโปรโมชันให้ผู้ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ทั้ง 7 และ XP สามารถแลกซื้อวินโดวส์ 8 ในราคา 2,190 บาท ซึ่งเมื่อจบงานคอมมาร์ต ราคาไลเซนส์ใช้งานวินโดวส์ 8 จะกลับไปเป็นมากกว่า 6,000 บาทเช่นเดิม
ยอมรับว่าราคานี้ไม่เคยมีมาก่อนในผลิตภัณฑ์วินโดวส์ เราบอกตัวเลขเป้าหมายยอดขายไม่ได้ แต่ราคานี้ถูกกำหนดเพราะเราอยากให้ลูกค้าได้ลองใช้งาน ถือว่าเป็นราคาสุดคุ้มที่ไม่ต้องคิดอะไรมาก มานพ มณีชวขจร CCG Director, Consumer Channel Group บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
วินโดวส์ 8 นั้นเป็นระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ของไมโครซอฟท์ที่ออกแบบมาให้สามารถใช้งาน 2 ระบบ คือระบบทัชสกรีนและระบบคอมพิวเตอร์พีซีทั่วไป ความจริงนี้ทำให้เกิดเป็นแนวโน้มหนึ่งที่เริ่มเห็นชัดเจนในงานนี้ คือ ตลาดหน้าจอทัชสกรีนกำลังจะกลายเป็นอีกสินค้าเด่นในตลาด เนื่องจากหน้าจอนี้ สามารถเปลี่ยนให้คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปธรรมดากลายเป็นคอมพิวเตอร์ระบบทัชสกรีนในพริบตา
อย่างไรก็ตาม ผู้สนใจซื้อวินโดวส์ 8 จะต้องตรวจสอบไดร์ฟเวอร์อุปกรณ์ในเครื่องเดิมให้ดีก่อนจะเปลี่ยนระบบปฏิบัติการด้วย
อีกสิ่งที่น่าสนใจคือ ปฐมระบุว่าเห็นได้ชัดว่างานคอมมาร์ตครั้งนี้ผู้บริโภคตื่นตัวเรื่องโอเอสอุปกรณ์เป็นพิเศษ ซึ่งจะเป็นทิศทางหลักของตลาดไอทีไทยต่อไป
- ไอทีไทยปลายปีโต
ผู้จัดงานคอมมาร์ตเชื่อว่างานคอมมาร์ตครั้งนี้จะมียอดจำหน่ายดีที่สุดในรอบปี ความหวังนี้สอดคล้องกับภาพรวมตลาดไอทีไทยช่วงครึ่งปีหลัง ที่เชื่อว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 12%
ตัวเลขอัตราเติบโต 12% ของผู้จัดคอมมาร์ตนั้นสูงกว่าตัวเลขจากองค์กรรัฐอย่างเนคเทคและซิป้าที่เชื่อว่าตลาดไอทีไทยจะเติบโตราว 11.2% จุดนี้ปฐมเชื่อว่าความหลากหลายของสินค้าในตลาด บวกกับความต้องการของผู้บริโภค จะทำให้ตลาดไอทีฟื้นฟูจากพิษน้ำท่วมในปีที่ผ่านมา
ปลายปีจังหวะดี ไอแพดมินิมาพร้อม เราคาดว่าสัดส่วนผู้ซื้อสินค้าต่อผู้ชมงานคอมมาร์ตครั้งนี้จะเพิ่มจากช่วงปีที่แล้วซึ่งมีวิกฤติน้ำท่วม ช่วงนั้นอัตราส่วนผู้ซื้ออยู่ที่ 60% (ในผู้ชมงาน 100 คน มีผู้ซื้อสินค้า 60 คน) จากเดิมที่เคยสูงสุดที่ 85% ซึ่งเราเคยสำรวจไว้ ครั้งนี้เราหวังให้ตัวเลขนี้เพิ่มเป็น 70-75%
สำหรับภาพรวมงานคอมมาร์ต ผู้จัดชี้ว่าแม้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตจะเป็นสินค้าหลักที่ช่วยฉุดยอดจำหน่าย แต่เชื่อว่าสินค้ากลุ่มโน้ตบุ๊กระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 7 จะเป็นสินค้าอีกกลุ่มที่ทำยอดจำหน่ายสูงสุดในงาน เนื่องจากต้องล้างสต็อกตามวงจรเพื่อรับกระแสสินค้าใหม่ลงตลาดอย่างคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กหน้าจอทัชสกรีน
- โน้ตบุ๊กรุ่นเก่าล้างสต็อก-รุ่นใหม่ลดราคา
สิ่งที่น่าสนใจจากงานคอมมาร์ตครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กส่วนใหญ่วางจำหน่ายพร้อมระบบวินโดวส์ 8 แต่อยู่ที่การลดราคาโน้ตบุ๊กหน้าจอทัชสกรีนวินโดวส์ 8 รุ่นใหม่ลงให้อยู่ในระดับราคาที่ไม่สูงนัก (เริ่มที่ 19,990 บาท) ขณะเดียวกัน คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กบางส่วนยังคงจำหน่ายในระบบวินโดวส์ 7 โดยลดราคาลง
ผู้จัดคอมมาร์ตชี้ว่านี่จะเป็นแนวโน้มในภาพรวมตลาดไทยถึงปีหน้า เพราะเมื่อระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8 พร้อมทำตลาด คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่รองรับเฉพาะวินโดวส์ 7 จะเริ่มถูกล้างสต็อกและทำราคาพิเศษเพื่อจำหน่ายโดยรวมราคาซอฟต์แวร์แล้ว จุดนี้คือตัวแปรสำคัญที่ทำให้สินค้าวินโดวส์ 7 จะถูกจำหน่ายมากในช่วงปลายปี
อีกแนวโน้มที่เห็นชัดในงานคืออัตราบุ๊กกำลังลดราคาลง โดยสินค้าโน้ตบุ๊กบางเฉียบน้ำหนักเบาพิเศษที่ใช้ชิปตระกูลอินเทลบางรุ่นมีการจัดโปรโมชันต่ำกว่า 20,000 บาท
เทรนด์งานนี้จะส่งผ่านถึงปีหน้า ปีนี้โน้ตบุ๊กที่เป็นเมนสตรีมคือวินโดวส์ 7 จะถูกล้างสต๊อกจนไม่มีจำหน่ายอีกในปีหน้า ส่วนปีหน้า โน้ตบุ๊กรุ่นใหม่พร้อมเทคโนโลยีทัชสกรีน พร้อมระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8 จะถูกปรับลดราคาลงมาเป็นเมนสตรีม ซึ่งอาจจะปรับราคาลงอีกในช่วงปลายปีหน้าต่อไปเป็นวงจร
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงเทรนด์ในตลาดโน้ตบุ๊ก โดยปฐมระบุว่าแท็บเล็ตสามารถไปได้ดีต่อเนื่องในระยะนี้ จุดนี้ทำให้ผู้จัดคอมมาร์ตเชื่อว่าคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กจะยังเป็นสินค้าหลักที่จำหน่ายได้มากที่สุดในงาน รองลงมาคือแท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน
- คนไทยไม่รอ 3G
อีกเทรนด์ที่ชัดเจนจากงานนี้คือคนไทยไม่รอ 3G แล้ว แม้คอนเทนต์และบริการ 3G จะพร้อมเต็มที่เมื่อโอเปอเรเตอร์เริ่มได้รับใบอนุญาต 3G แต่เชื่อว่าคนไทยไม่ได้รอ เพราะการเติบโตของตลาดอุปกรณ์ต่างๆนั้นเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง
วันนี้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต 3G ถูกตั้งเป้าว่าจะเป็นสินค้าหลักที่ช่วยดึงยอดจำหน่ายในงาน เช่นเดียวกับตลาดไอที ซึ่งเชื่อว่าสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตจะเป็นสินค้าหลักในตลาดไอทีไทยต่อไปถึงปีหน้า และจะเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเสริมไม่ได้มาแทนที่คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กหรือคอมพิวเตอร์พีซีเต็มตัว
-----
งานคอมมาร์ต คอมเทค ไทยแลนด์ 2012 มีกำหนดจัดขึ้นตั้งแต่ 15-18 พฤศจิกายน 2555 ท่ามกลางสินค้ามากกว่า 500 รายการที่ร่วมลดแลกแจกแถมในงานตามธรรมเนียม บนคำการันตีว่าลดทั้งงาน 30-50%
ที่มา : ขอขอบคุณ หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ
|
|
http://www.adisorn.biz
2012-11-16 20:12:26 124.121.106.**
stat :
287 posts ,
2 replys
|