ฟรี ร้านค้า ออนไลน์ ads 18.221.98.71 : 25-04-24 17:22:05   
สมัครสมาชิกใช้งานติดต่อโฆษณาสินค้าแยกตามหมวดร้านค้าสมาชิกกระดานสนทนากระดานสนทนา
MeeMarket

  หมวดสินค้าของเรา            
  
 

Tag / คำค้น

  แสดงสินค้าทั้งหมด
มีอะไรอยู่ในตะกร้าบ้างแล้ว คลิ๊กเลย!!!
หน้าแรกของร้าน
ร้าน MeeMarket
กระดานถามตอบของร้าน
>> webboard ของร้าน >> ตลาดคลองสวน บางบ่อ ถึง บ้านโพธิ์

หัวข้อ : ตลาดคลองสวน บางบ่อ ถึง บ้านโพธิ์  
 
พรุ่งนี้วันเสาร์ หากเป็นเมื่อก่อน ไม่ต้องถึงขนาดเป็นร้อยปีอย่างที่ชุมชนแห่งนี้ก่อตั้งมา เอาแค่สิบกว่าปีที่ผ่านมา ห้องแถวไม้เรียงรายคงเต็มอยู่ด้วยลูกหลานที่กลับมาเยี่ยมบ้าน หลังจากผันชีวิตไปทำงานในกรุงเทพฯ หรือไม่ก็ปิดเงียบ ปล่อยให้คราบฝุ่นจับบานประตูเหมือนอีกหลายต่อหลายหลัง หากแต่พรุ่งนี้ของนาทีปัจจุบัน จะเป็นวันที่ทางเดินหน้าบ้านกลางตลาดของพวกเขา เนืองแน่นอยู่ด้วยผู้คน เสียงจ้อกแจ้กจอแจ รอยยิ้มปนหัวเราะ สายตาซอกแซกกวาดมองไปแทบทุกเหลี่ยมมุม ดูเหมือนพรุ่งนี้สำหรับคนที่นี่อาจไม่ ใช่แค่วันหยุดสุดสัปดาห์ แต่เป็นวันที่บ้านเต็มไปด้วยชีวิตชีวา และมีค่าพอจะทำให้ใครสักคนไม่ทิ้งร้างจากจร

วันกลางสัปดาห์ที่มีแดดร้อนเร่าผิดฤดูกาล ยิ่งทำให้ร้านกาแฟของ ตลาดคลองสวน กลายเป็นแหล่งรวมของชาวบ้าน ทางเดินหน้าห้องแถวริมคลองประเวศบุรีรมย์ ไม่ได้เนืองแน่นไปด้วยผู้คน ไม่นับเราจะมีหลงเข้ามาบ้างก็เพียงสองสามกลุ่ม มันไม่ได้ทำให้ภาพที่เป็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันของ คลองคลองสวน เปลี่ยนไปเท่าไรนัก ริมท่าน้ำเป็นที่เล่นของเด็ก ๆ ลูกหลานจีน สภากาแฟ วงหมากรุก ขณะที่ในห้องแถวไม้คร่ำกาลเวลาก็เต็มไปด้วยสินค้า และผู้เป็นเจ้าของที่เติบโตมาควบคู่กัน นั่งเอนหลังดูทีวีอย่างสบายอารมณ์ นาน ๆ จะมีลูกค้ามาซื้อของสักที บทสนทนาหลังซื้อขายมักหนีไม่พ้นเรื่องราวประจำวันของการอยู่ร่วม

ตลาดคลองสวน
ตลาดนี่จริง ๆ มันมีสองฝั่ง บางบ่อ สมุทรปราการ กับ บ้านโพธิ์ ฉะเชิงเทรา แต่เราไม่ได้คิดแบ่งอย่างเขาหรอก ป้ากิมเอ็ง แซ่เจ็ง ยกถาดขนมชั้นสีสวยวางหน้าร้าน ไล่เลยไปมีขนมอีกไม่กี่อย่าง เท่าที่ผมเห็นก็เพียงขนมเปียกปูน ซึ่งชวนกินและขนมตาลอีกไม่น่าจะเกิน 60 ลูก วันธรรมดาแค่นี้ก็พอแล้ว วางถาดลงป้าแกก็ออกมานั่งยิ้มอยู่บนเก้าอี้ไม้ตัวเก่า พเยิดหน้าให้กับลูกค้าเจ้าประจำ

แต่เดิมแถวนี้เป็นอาคารไม้ชั้นเดียวทั้งแถบ เสาทำจากไม้ต้นตาลที่เรียกกันว่าหลาวชะโอน ทางเดินก็เป็นดินหมด วงของเราใหญ่ขึ้น แม่ค้าเป็ดพะโล้เจ้าดังเดินเข้ามาร่วมคุย ตลาดคลองสวนนั้นสร้างมาก่อน พ.ศ.2444 โดยกลุ่มชาวจีน ในยุคแรกนั้นใช้ชื่อว่าตลาดสามพี่น้อง และมาสร้างเป็นสองชั้นราวปี พ.ศ.2477 ชื่อคลองสวนหรือ ลื้อก็ดูสิ คลองย่อยออกไปอีกหลายสาย เรือมาสวนกันตรงแถบนี้แหละอย่างว่า แต่เดิมที่นี่ไม่นับรถไฟ เรือเป็นทางเดียวในการไปไหนมาไหนเลยล่ะ

เรือที่ป้าทั้งสองว่านั่นก็คือ เรือเมล์ขาวของนายเลิศที่มีอยู่เพียงลำเดียว แล่นขึ้นล่องระหว่างคลองแสนแสบ ผ่านวังสระประทุม มาถึงประตูน้ำท่าถั่ว ที่ฉะเชิงเทรา ข้าวของหายากจากกรุงเทพฯ คนคลองสวนรู้จักหมดล่ะ ขึ้นล่องค้าขาย เอาของทางโน้นมาขายที่นี่ ของเราอย่างจากนี่หอบหิ้วกันไปเป็นตับ ๆ ... คลองยังคงอยู่ อาจขอดแห้งตื้นเขิน แต่ก็เต็มไปด้วยเรื่องเล่าของคนที่นี่ เด็ก ๆ แต่เดิมมันสนุกจะตาย เกาะเรือโยงข้าว ท่าโน้นไปท่านี้ ปล่อยลอยคอตามน้ำ แต่เดิมที่นี่มันแหล่งรวมเลยนะ โรงเลื่อยไม้ โรงหีบอ้อย โรงสีไฟ บางทีน้ำขึ้น เรือจากฝั่งทะเลยังเข้ามาบรรทุกของกันถึงที่นี่

ว่ากันถึงสองฝั่งของ ตลาดคลองสวน แต่เดิมคนเก่าแก่เล่ากันว่าเป็นของคหบดีแซ่แต้กับแซ่เบ๊ โอ๊ย รุ่นอาม่าฉันนะ สองฝั่งนี่ไม่ถูกกันเลย มาดีกันอย่างไรรู้ไหม ลูกชายลูกสาวอีรักกันน่ะ ผลพวงจากความปรองดองง่าย ๆ แต่แสนยิ่งใหญ่นี่เอง ที่ทำให้ตลาดคลองสวนยิ่งเจริญก้าวหน้า พัฒนาไปควบคู่กับวันเวลา

ใครมาเช่ามาอยู่ รุ่นต่อมาเขาเลือกนะ อย่างฝั่งบ้านโพธิ์นี่ คุณป้าบุญสวน แสนเจริญ ท่านเรียกป้าเข้าไปหา บอกอั๊วะเห็นลื้อขยัน เป็นคนดี ลื้ออยู่ตึกนี้ละช่วยกันพัฒนาตลาด จากสาวลูกจ้างในวันนั้น ป้ากิมเอ็งนอนหลับในตึกไม้เก่าแก่ห้องนี้มาร่วมหกสิบกว่าปี ลูกค้าขาจรมาพอดี ป้ากิมเอ็งเดินไปขายขนมคู่ชีพ เดี๋ยวลื้อมากินนะ อย่างเกรงใจในความอารี ผมเลาะตลาดฝั่งบ้านโพธิ์ในวันธรรมดา ตลาดร่มครึ้มด้วยหลังคาตลอดทาง ที่แสงพอลอดลงมาได้ก็กลับทำให้บรรยากาศไม้ ๆ ยิ่งเปี่ยมเสน่ห์น่าหลงใหล แต่ละห้องที่เรียงรายนั้นคือชีวิตจริงอันไม่ได้ จัดฉาก มีทั้งของสด ร้านขายทอง ร้านขายเสื้อผ้า อุปกรณ์การตัดเย็บ ร้านตัดผม ร้านขายยาโบราณ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ร้านขายอะไหล่รถและเรือ ร้านขายปุ๋ยและเครื่องมือการเกษตร เครื่องมือหาปลา

บางร้านที่ผมไปหยุดดูนาน ๆ มักมีคำถามทำนองว่า จะซื้ออะไร? แว่วกลับมา เมื่อเห็นว่าเราเป็นเพียงผู้มาเยือน อากงอาม่าบางคนก็ไม่ได้ใส่ใจกับเรานัก ทีวียามบ่ายยังคงดึงดูดเสียมากกว่า เช่นนี้เอง ป้ายร้าน ข้าวของ ตู้ โต๊ะ เก้าอี้ ที่พากันไปยู่ในเฟรมภาพของแต่ละคนจึงไม่ได้สำคัญไปกว่าการที่ใครสักคนจะนั่ง ลงฟังสิ่งที่พวกเขาอยากเล่า อยากให้รู้ ในวันที่พวกเขาเลือกเปิดบ้านเพื่อการมาถึงของหลายต่อหลายคน

ผมก็สนุกเหมือนทุกวันล่ะ แต่เดี๋ยวนี้โดนแฟลชมากก็ไม่ไหว แป๊ะหลี แซ่แต้ ยืนอยู่หน้าตึกไม้ห้องเล็กกว่าของแม่กิมเอ็ง บ่ายวันนี้คนไม่แน่นเหมือนเสาร์อาทิตย์ ป้ายร้านแต้เซ่งเฮงเหนือขึ้นไปเต็มไปด้วยริ้วฝุ่น เหมือนบอกถึงการเปิดมายาวนานถึง 67 ปี อารมณ์ดีในวัย 84 ปี ของชายร่างเล็กซ่อนอยู่ใต้แว่นตาสีกระเรือนโต โต๊ะเช็กโกสี่ห้าตัวเรียงลึกเข้าไปในร้านทึม ๆ รูปขาวดำจากตากล้องอาชีพ ที่แวะเวียนมาถ่ายและส่งให้ยิ่งทำให้ร้านของแป๊ะ ดูเป็นตัวของตัวเอง ใครเลยจะคิดว่าคนที่ทำอดีตหล่นหายและมาตามหาจะจริงจังได้ถึงขนาดนี้

สมัยก่อนนั่งเรือเมล์ขาวเกือบทั้งวันไปซื้อเมล็ดกาแฟดิบที่กรุงเทพฯ มาคั่ว ตอนนั้นยังคั่วกาแฟไม่เป็นเลย ดิบบ้าง สุกเกินไปบ้าง ต้องลองผิดลองถูกด้วยตัวเองกว่าคนจะติด โอ้ยนาน ตลาดนั้นอยู่คู่ร้านกาแฟมาตลอด และก็ไม่ได้มีเพียงร้านเดียว แป๊ะหลีในวัยหนุ่ม ไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่าจะเปิดร้านยืดยาวมาจนวันนี้ กาแฟของแป๊ะของแป๊ะเริ่มที่แก้วละ 3 สตางค์ ช่วงนั้นถือว่าแพงเหมือนกัน เพราะเป็นช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เราใช้ของดี ขายเรื่อยมาจนถึงวันนี้แก้วละ 10 บาทแล้ว

ตลาดเป็นที่รวมคน ยิ่งเป็นแถบที่มีคนหลายเชื้อชาติ ทั้งจีน ไทย มุสลิม อยู่ร่วมกันต่อยอดจากริมคลองออกไปสู่ไร่นาอย่างคลองสวน ใคร ๆ ก็ต้องมุ่งมาที่นี่กันเป็นหลัก แต่ก่อนคนมาตลาดกันทุกวัยล่ะ หนุ่มสาวก็มาเจอกันที่โรงลิเก โรงงิ้ว เราเรียกกันว่าวิกโรงฝิ่น คนจีนสมัยนั้นสูบฝิ่นเยอะ คนแก่ ๆ ก็นั่งกันตามร้านกาแฟ งิ้ว ลิเก เล่นสลับกันไป ช่วงงานศาลเจ้านี่ไม่ต้องห่วง ขายดิบขายดีเทียวละ แป๊ะหลี หมายถึงงานเทศกาลศาลเจ้าพ่อคลองสวน ซึ่งว่ากันว่าคึกคัก นักเลงต่างถิ่นนิยมมาเที่ยว คลองสวน กลายเป็นแหล่งรวมคนจากบ้านจากตำบลต่าง ๆ มากมาย ความคึกคักของตลาดและเรื่องราวตามคลองประเวศฯ เริ่มห่างหายไปจากผู้คนเมื่อถนนจากลาดกระบังเชื่อมแปดริ้วตัดมาถึง คนซบไปเยอะ อาตี๋อาหมวยไปร่ำเรียนหาเงินในเมืองกันหมด

เป็นอันว่าภาพคึกคักที่หลายต่อหลายคนพูดถึง ได้หลอมเลือนไปกับการห่างหายของคนรุ่นถัดมาของตลาด บางหลังเปลี่ยนมือ ขณะที่บางหลังก็กลายเป็นที่อาศัยของเด็กกับผู้เฒ่า ปล่อยร้างปิดตายไปก็มาก คืนเจ้าของเขาไปก็เยอะ ย้ายออกมานั่งหน้าบ้าน แป๊ะปาดเหงื่อหยดท้าย ๆ ของวัน หลังให้ลูกจ้างหนุ่มช่วยเก็บร้าน กากกาแฟในผ้าขาวบางก่ายกอง จะว่าด้วยโชคก็ไม่ใช่ ที่เกิดการรวมตัวของหลายต่อหลายฝ่าย ทั้งเทศบาล ทั้งหน่วยงานส่งเสริมของจังหวัด มุ่งฟื้นฟูชีวิตชีวาของคนคลองสวนกลับมา ทำเป็นท่องเที่ยวก็ดี คนเข้ามาหามาดู แต่เราก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไรไปนี่ แป๊ะเก๊า มิตรขายกาแฟฝั่งบางบ่อข้ามสะพานไม้มาสมทบ

เสียงเฮฮาตามแบบฉบับชายชรา นึกถึงคืนวันเก่า ๆ ลั่นขรมอยู่ในยามเย็นเกือบสิบปีทีผ่านมา ด้วยการรวมตัวของพวกเขาเอง ห้องแถวแต่ละห้องไม่เพียงดูสะอาดสะอ้าน แต่ความมีชีวิตชีวาที่ซ่อนอยู่หลังบานเฟี้ยมสีไม้สวย หรือฝังอยู่ในแววตาคนแก่ที่เริ่มฝ้าฟาง ต่างก็เริ่มปรากฏออกมาง่าย ๆ บางคนก็ลงไปอยู่ในอาหารการกินหลากหลาย ในก๋วยเตี๋ยวหมูสูตรเฉพาะอันเก่าแก่เลี้ยงคนรุ่นต่อรุ่น ในของเล่นขนมนมเนยที่เคยเป็นอดีต ของใครบางคน อย่างหมากฝรั่งบุหรี่ตราแมวดำ ลูกอมโคลา ขนมโก๋แถมแหวน

คนเข้ามาเยอะสิดี ลูกหลานมันจะได้เห็นว่าที่นี่อยู่ได้ กับคำถามไม่เข้าท่าของผมเกี่ยวกับเรื่องคนนอกคนใน เจ๊เจงที่ยืนขายก๋วยเตี๋ยวหมูอยู่ริมคลองประเวศฯ และตลาดคลองสวนมากว่าสี่สิบปี ไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นเรื่องน่าเป็นห่วงเท่าไรนัก

ก็เรายังอยู่ที่นี่ ค้าขายกินอยู่กันแบบนี้ ไม่ได้ให้ใครมาเปลี่ยนนี่ นาทีนั้นผมรู้สึกได้ว่าพวกเขาขายสินค้าอาหาร ไม่ได้ขายวิญาณของอดีต

วันนี้วันศุกร์ ฝั่งตรงข้ามที่ มัสยิดอัลวะต้อนียะห์ เต็มไปด้วยพี่น้องมุสลิมกว่า 76 บ้านที่มาพร้อมกัน เตรียมเข้าสู่ความสงบของพิธีกรรมที่พวกเขาศรัทธา ซึลามมาเลกุม อิหม่ามสมาน แย้มอุทัย ยื่นมือมาจับสองมือของผม ขอให้พระผู้เป็นเจ้าคุ้มครอง เมื่อได้รับโอกาสเข้าไปนั่งนิ่งอยู่ในสุเหร่า สดับเสียงสวดขอพรจากพระอัลเลาะห์ ที่ดูเหมือนจะกังวานเข้าไปในหัวใจ ฟังคำสอน ข้อประพฤติ ตลอดจนการอยู่ร่วมกันในสังคม นาทีนั้นราวกับโลกในนั้นของพวกเขาเป็นหนึ่งเดียว

เราอยู่กันมานาน คนสองฟากคลอง ไร่นา ตลาดคนจีน คนพุทธ คนมุสลิม อิหม่าม บอกกับผมเมื่อเราอยู่บนสะพาน ที่ผมนึกเอาเองว่าเป็นสัญลักษณ์ของการเชื่อมโยง

พรุ่งนี้วันเสาร์ สุดสัปดาห์ที่หลายคนคงเดินทางมาเที่ยวคลองสวนเข้ามาเห็น มาสัมผัสสิ่งที่พวกเขาคิดว่าตกหล่นไปกับวันเวลาและพยายามค้นหา เก็บจำ คล้ายภาพถ่ายโบราณสักใบหนึ่งที่ คลองสวน ภาพเก่าแก่ที่คล้ายจะชืดจางเหล่านี้ยังคงเคลื่อนไหว มีเสียงหัวเราะร่ำไห้ให้กับโชคชะตากรรม และสิ่งที่ตนเลือก ไม่ใช่ในฉากละคร แต่คือชีวิตอันจริงจังที่ผูกอยู่กับปฏิทินปัจจุบัน และอาจไม่มีใครสามารถย้อน ทวนคืนวันเพื่อเก็บไว้เฝ้ามองแต่เพียงด้านเดียว

ที่มา กระปุก.คอม  

แสนดีเจริญรุ่งเรือง


2010-12-25 12:00:28 183.89.25.**
stat : 690 posts , 0 replys
 

คำตอบ
 
ข้อความ
รูปแบบพิเศษ ย่อหน้า ตัวหนา ตัวยก ตัวห้อย ตัวหนังสือเรืองแสง ตัวหนังสือมีเงา ตัวเอียง เส้นใต้ สีแดง สีเขียว สีน้ำเงิน สีส้ม สีชมพู สีเทา แทรกรูปจาก internet แทรกไฟล์ youtub vdo
Emotions
ชื่อ
email
ซ่อน E-Mail
.
สมัครสมาชิก Click ที่นี่ | เข้าสู่ระบบ Click ที่นี่




User :
Pass :
ลืมรหัสผ่าน

 
 
 
© Copyright 2010 WWW.MEEMARKET.COM All Rights Reserved.