หัวข้อ : เที่ยว นิวซีแลนด์ ในวันสบาย ๆ
|
วันแรกอากาศแจ่มใสเหมาะแก่การเดินเล่นใน เมืองโอ๊คแลนด์ เพื่อชมวิถีชีวิต ของผู้คนที่มาจากหลากหลาย วัฒนธรรม ทั้งอังกฤษ แอฟริกาใต้ เม็กซิกัน อินเดีย เกาหลี จีน ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ เนเธอร์แลนด์ ฯลฯ ชีวิตประจำวันของคนเมืองนี้ได้มีโอกาสอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติดูแล้วน่าอิจฉา แม้จะเป็นวันทำงาน แต่ดูเหมือนผู้คนจะไม่รีบเร่งในการดำเนินชีวิต
หลายคนดูมีความสุขกับการรับประทานอาหารกลางวันแบบสบาย ๆ บริเวณ Viaduct Harbor ซึ่งเป็นท่าจอดเรือบรรยากาศดีที่ชาวเมืองเขาชอบมานั่งเล่นกันในตอนกลางวัน แต่หากเป็นช่วงค่ำก็ต้องเป็นการ ชมราตรีจากจุดชมวิวของ Sky Tower มีความสูงถึง 328 เมตร ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นทาวเวอร์ที่สูงที่สุดของประเทศนิวซีแลนด์ Sky Tower มีเสน่ห์เป็นที่ดึงดูดใจด้วยวิวเหนือนครโอ๊คแลนด์ รวมทั้งมีกล้องส่องทางไกล ซึ่งติดตั้งพร้อมแผนที่บอกว่าสถานที่เห็นนั้นเป็นที่ใดบ้างของเมือง
วันรุ่งขึ้นวางแผนนั่งรถไปจุดชมวิว Harbor Bridge ในช่วงฤดูร้อนจะเป็นสถานที่ยอดฮิตของกิจกรรม กลางแจ้งคือการโดดบันจี้จัมพ์ และการปีนขึ้นไป ชมวิวบน Harbor Bridge จากนั้นก็ขึ้นไปบนยอด เขา Mountain Eden มองเห็นโอ๊คแลนด์ เป็นคอคอดกระแคบ ๆ ระหว่าง อ่าวไวทะมาตะ (Waitemata Harbor) และ อ่าวมานัวคัว (Ma nukau Harbor) อยู่เบื้องหน้าได้ชัดเจน
เมื่อลงเขามาก็ถึง Parnell Village ซึ่งห่างจากใจกลางเมืองโอ๊คแลนด์แค่ 2-3 กิโลเมตร เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ซึ่งมี เอกลักษณ์กลิ่นอายของความเป็นสมัยเก่าให้เห็นอยู่ ตึกเก่าสไตล์โคโลเนียล ทางเท้าปูลาดด้วยอิฐ เป็นแหล่งรวม ร้านอาหารและคาเฟ่เก๋ ๆ อยู่ตลอดถนนรวมทั้งในซอกซอย
หลังจากนัดเจอเพื่อนซึ่งเรียนหนังสืออยู่ที่นี่ เราก็วางแผนไป เกาะไวฮิกิ (Waiheke Island) ช่วงวันหยุดสุด สัปดาห์ ซึ่งต้องนั่งเรือ Fullers จากท่าเรือ Furry Building ถนน Quay Street ตรงข้ามดาวน์ทาวน์ เราเลือกนั่ง ชั้นบนของเรือในส่วน Outdoor จึงได้ชมวิวของตัวเมืองเต็มตา เรือใบสีขาว-ฟ้าจอดเรียงรายเต็มอ่าวสมฉายาที่ โอ๊คแลนด์ได้รับเป็น City of sails เสียจริง ๆ ใช้เวลาเดินทางเพียง 35 นาทีเราก็มาถึง เกาะไวฮิกิ (Waiheke) ที่ ขึ้นชื่อเรื่องไวน์แดง เราสนุกสนานกับการเดินแทนการเช่าจักรยานโดยมีจุดหมายเป็นไร่องุ่น ถนนของเกาะนี้ เป็นถนนเล็ก ๆ 2 เลน ขึ้นลงสลับเนินเขา เดินมากจึงเมื่อยสุดท้ายก็ต้องเปลี่ยนเป้นการนั่งรถบัสไปชมไร่องุ่นแทน
วันถัดมาตื่นเช้ามืดอีกครั้งเพื่อขึ้นรถโค้ชเดินทางลงใต้เพื่อไป เมืองโรโตรัว (Rotorua) ห่างจากโอ๊คแลนด์ประมาณ 3 ชั่วโมงกว่า ๆ เมืองโรโตรัว (Rotorua) มี ทะเลสาบโรโตรัว (Rotorua) เป็นศูนย์กลางของภูเขาไฟในส่วนตอนกลางของเกาะเหนือพื้นดินบริเวณนี้จึงเต็มไปด้วยน้ำพุร้อนและบ่อ โคลนเดือดทำให้เมืองนี้มีชื่อเสียงมากในเรื่องของสปา จนได้รับชื่อว่าเป็น สปาธรรมชาติของแปซิฟิกใต้ Natures Spa of the South Pacific
กิจกรรมแรกเมื่อมาถึงโรโตรัวก็ตรงไปที่ เรนโบว์สปิงค์ (Rainbow Spings) สวนซึ่งเปิดตั้งแต่ปี 1984 อนุรักษ์ให้อยู่ในสภาพแวดล้อมท่ามกลางธรรมชาติมาก สวนแห่งนี้มีทั้งพืชและสัตว์ท้องถิ่นให้เราได้ ชมมากมายเมื่อเดินทางออกจาก Rainbow Springs เราก็นั่งรถชมรอบ ๆ เมืองรวมทั้งศาลาว่าการที่เป็นสถาปัตยกรรมสวยงาม ก่อนจะไปแวะริมทะเลสาบรับประทานอาหารกลางวันแบบปิคนิค
ช่วงบ่ายก็ไปยัง Whakarewarewa เป็นหมู่บ้านของชาวเมารีตั้งแต่ 300 ปีที่แล้วและก็ยังมีลูกหลาของชาวเผ่านี้ก็ยังอาศัยอยู่ เราได้รับการต้อนรับด้วยประเพณีดั้งเดิมของเผ่าเรียกว่า ฮองกี (Hongi) โดยการเอาจมูกมาชนกัน มีความหมายลึกซึ้งถึงการร่วมแบ่งปันลมหายใจของชีวิตกันและกัน ที่โรโตรัวนี้จะมีหมู่บ้านของชาวเมารี หลายแห่งที่ล้วนมีอายุมากกว่า 100 ปี และบางแห่งก็ยังมีลูกหลานของพวกเขาอาศัยอยู่
เราเดินมาเรื่อยจนมาหยุดบริเวณ Meeting House ของเผ่าเพื่อรอชมการแสดงพื้นเมือง โดยมีกีต้าร์ เป็นเครื่องดนตรีหลัก ซึ่งจะเล่นประกอบกับเครื่อง ดนตรีพื้นเมืองเป็นลูกกลม ๆ เล็ก ๆ คอยให้จังหวะ เสียงเพลงใช้พลังการประสานเสียงของคนประมาณ 8 คน มีเอกลัษณ์และไพเราะมาก
จากนั้นรถบัสก็พาเราไปส่งที่ Whakarewarewa Forest เป็นป่าอุดมสมบูรณ์ประกอบด้วยต้นไม้ หลากชนิด ใช้เวลาประมาณเกือบชั่วโมงเดินอยู่ข้างใน ระหว่างเดินทางกลับโอ๊คแลนด์ได้แวะชมฟาร์มเลี้ยง แกะ เราเข้าไปดูวิธีการเลี้ยงแกะ การต้อนแกะ การ รีดนมวัว ฉันลองให้นมลูกแกะ ดูโชว์จบลงด้วยการสาธิตการตัดขนแกะด้วยเครื่อง เจ้าหน้าที่ของฟาร์มยืนยันว่านี่เป็นวิธีที่ถูกต้องและไม่ได้ทรมานเจ้าแกะน้อย และเพียงไม่นานขนก็จะกลับขึ้นมาใหม่ตามกล ไกธรรมชาติ
เมื่อมาถึงโรงแรมในช่วงค่ำ ได้รับข้อความจากเพื่อนชวนทานข้าวเย็นก่อนฉันเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในวันถัดไป บ่ายวันรุ่งขึ้นฉันนั่งเรือ Fullers ไป Devonport อยู่ทางด้านเหนือของเมือง North Shore ใช้เวลาเดินทางเพียงไม่ถึง 15 นาทีแต่บรรยากาศของเดเวนพอร์ท ให้ความรู้สึกแตกต่างกับ โอ๊คแลนด์ เหมือนอยู่ในชานเมืองอากาศดี โดยมากเป็นถิ่นที่อยู่อาศัย ร้านหนังสือน่าสนใจหลายร้าน ร้านอาหารบรรยากาศดีไม่ไกลชายหาด Cheltenham
สำหรับคนรักงานศิลปะ Art Galleries เรียง รายตามถนนให้เลือกแวะเข้าไปชม ฉันค่อย ๆ วางภาพเขียนสีน้ำมันรูปแกะน้อยซึ่งถูกห่ออย่างทะนุทะนอมลงในกระเป๋าใบโต พร้อมหนังสือที่เพิ่งซื้ออีกสองสามเล่มเมื่อตอนบ่าย แต่สิ่งที่มีค่าที่สุดก็คือฉันบรรจงเก็บ ความประทับใจ รวมร้อยเรื่องราวเล็ก ๆ น้อย ๆ มิตรภาพใหม่ ๆ ที่หาได้ไม่ยากเลยตลอดการเดินทาง เป็นประสบการณ์ยิ่งใหญ่วางไว้ในใจ และกลับเมืองไทยมาพร้อม ๆ กับฉัน ปานสิริ รุ่งรัตน์ธวัชชัย
ที่มา กระปุก.คอม
|
|
แสนดีเจริญรุ่งเรือง
2010-11-30 06:02:30 183.89.122.*
stat :
690 posts ,
0 replys
|
