หัวข้อ : เมื่อ เอเชีย ก้าวสู่
มหาอำนาจโลกดิจิทัล
|
บทความ : เอกรัตน์ สาธุธรรม
ด้วยประชากรที่มีมากมาย กินพื้นที่เกือบครึ่งค่อนโลก ภูมิภาคเอเชีย เลยกลายเป็นขุมทรัพย์ของโลกอุตสาหกรรมเกือบทุกประเภท อุตสาหกรรมไอที อิเล็กทรอนิกส์ ก็มิใช่ข้อยกเว้น
วันนี้ เอเชีย กำลังไต่อันดับจากตลาดเกิดใหม่ ความท้าทายสูง เตรียมพร้อมเลื่อนชั้นขึ้นเป็นมหาอำนาจแห่งโลกไอที
ปัจจุบัน หลายประเทศในเอเชีย มีเศรษฐกิจ และการลงทุนที่เบ่งบาน ท้าทายสายตาของมหาอำนาจในอีกซีกโลกหนึ่ง หากไม่นับ สิงค์โปร์ จีน ญี่ปุ่น อินเดีย และเกาหลีใต้แล้ว ทั้งเวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย หรือแม้กระทั่ง ไทย ต่างถูกจับตามองจากนักลงทุนทั่วโลก โดยเฉพาะการลงทุนด้านไอที และโทรคมนาคม
เมื่อปี 52 มูลค่าตลาดสินค้าไอทีที่คนทั่วโลกจับจ่ายสูงประมาณ 7.1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เฉพาะภูมิภาคเอเชียมีการการจับจ่ายสินค้าไฮเทคเหล่านี้มากถึง 9.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
สแตนเลย์ คี ผู้อำนวยการส่วนการพาณิชย์ประจำภูมิภาค เอเชีย-แปซิฟิก ของ จีเอฟเค (GFK) บริษัทวิเคราะห์ ตลาดชื่อดังระดับโลก บอกว่า เอเชียกำลังกลายเป็นมหาอำนาจแห่งโลกไอที เพราะมีจำนวนของคนรุ่นใหม่มากกว่าคนรุ่นเก่าหลายเท่าตัว โดยโครงสร้างอายุของประชากรในภูมิภาคนี้มากกว่า 25% มีอายุต่ำกว่า 15 ปี
++ไทย..จุดเด่นของ อาเซียน
ไทยเป็นหนึ่งในอาเซียนที่น่าจับตามองมาก เพราะประชากรส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ ทำให้ขีดความสามารถแข่งขันในอุตสาหกรรมสมัยใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มไอที มีแนวโน้มเป็นบวก เช่นเดียวกับการขยายตัวของไอทีที่กำลังเข้าไปสู่พื้นที่ในต่างจังหวัดมาก ขึ้น
คี ระบุว่า ตลาดไอทีไทย น่าจับตามองอยู่ในกลุ่มสินค้าไฮเทคประเภทพกพา (Portable Technology) เช่น กล้องวีดีโอดิจิทัล เน็ตบุ๊ค สมาร์ทโฟน เอ็มพี 3 เครื่องเล่นมัลติมีเดียพกพา รวมไปถึงเกมคอนโซล โดยปี 52 ที่ผ่านมา สินค้ากลุ่มนี้ มียอดขายกว่า 1.7 พันล้านยูนิต เติบโตจากปีก่อนหน้า 49%
ขณะที่ วิชิต เพียวพงษ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท จีเอฟเค รีเทล แอนด์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า หลังผ่านวิกฤติทางการเมือง ตลาดไอทีไทยทั้งส่วนการลงทุน และความต้องการบริโภค มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มคอมพิวเตอร์ และสมาร์ทโฟน
คาดว่าหลังจากมีบริการ 3จี เกิดขึ้นในไทย การแข่งขัน การลงทุน การบริโภคสินค้าไอที รวมไปถึงอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องจะเติบโตอย่างมาก ซึ่งส่วนหนึ่งก็มาจากการสนับสนุนของภาครัฐทั้งในเรื่องงบประมาณ และนโยบาย วิชิต ว่า
ผลสำรวจของ จีเอฟเค ยังพบด้วยว่า ตลาดพีซีในไทยหลังการเมืองผ่านพ้น บริษัทคอมพิวเตอร์ได้เทงบมหาศาลจัดกิจกรรมส่งเสริมตลาด บางบริษัทเน้นขายพ่วงสินค้าคู่ไปกับคอมพิวเตอร์ ทำให้ช่วงเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นฤดูการเปิดภาคเรียน (Back to school) ยอดขายคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ค และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องขยับตัวสูงขึ้น
ขณะที่ งานนิทรรศการไอทีอย่าง คอมมาร์ต ก็ถือเป็นตัวกระตุ้นสำคัญ ที่ทำให้การจับจ่ายสินค้าไอทีฟื้นตัวกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
+++3จี ดันสมาร์ทโฟน/มือถือตลาดใหญ่
ส่วนตลาดมือถือ และสมาร์ทโฟน จีเอฟเค ระบุว่า ปีนี้ยอดขายจะมีมากกว่า 10.9 ล้านเครื่อง หรือโต 7% เมื่อเทียบกับปี 52 โดยมือถือโลคัลแบรนด์ เป็นตัวสำคัญในการกระตุ้นตลาด ด้วยกลยุทธ์ราคาถูก และเน้นจำหน่ายออกต่างจังหวัด ขณะที่ ค่ายมือถือยักษ์ใหญ่ทั้ง โนเกีย ซัมซุง แอลจี โซนี่ อีริคสัน ต่างก็เปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ ที่มุ่งเจาะตลาดระดับล่างจนถึงระดับกลาง
มือถือในระดับราคา 3,000 บาท ถือว่าครองส่วนแบ่งตลาดมือถือในไทยมากกว่า 60% ขณะที่ มือถือในราคา 1 หมื่นบาทครองส่วนแบ่งตลาดประมาณ 8% และในครึ่งปีหลังกว่า 25% ของยอดขายมือถือทั้งหมดของทุกยี่ห้อจะอยู่ในกลุ่มมือถือระดับล่างถึงระดับ กลาง
อย่างไรก็ตาม การมาของ3จี ยังจะทำให้การแข่งขันในตลาดมือถือไทยรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะยอดขายมือถือ หรือสมาร์ทโฟนประเภทดูทีวีได้ (Mobile PhoneTV) จะขยับส่วนแบ่งตลาดได้สูงขึ้น จากปัจจุบันอยู่ที่ 15%
หลังไทยมี 3จี เทรนด์ของมือถือดูทีวีได้ ที่สามารถรองรับภาพเสียง เนื้อหามัลติมีเดีย รวมถึงวีดีโอความละเอียดสูง จะมียอดขายเพิ่มขึ้น เพราะความเร็วอินเทอร์เน็ตสูงขึ้นทำให้การรับส่งไฟล์มัลติมีเดียทำได้มี ประสิทธิภาพ ผลสำรวจ ระบุ
ส่วนปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นให้ตลาดสมาร์ทโฟนในไทยเติบโต ยังมาจากความนิยมของสมาร์ทโฟนระดับโลกที่เข้ามาฮิตในไทย ทั้งไอโฟน แบล็คเบอรี่ รวมถึงแอนดรอยด์ ซึ่งรองรับการทำงานด้านอีเมล์ การส่งข้อความ รวมไปถึงการเชื่อมต่อเข้าสู่เครือข่ายสังคม (โซเชียลเน็ตเวิร์ค)
+++สมาร์ทโฟน จุดเปลี่ยนเอเชีย
อีกบริษัทวิเคราะห์ชื่อดังอย่าง ฟรอสต์ แอนด์ ซุลลิแวน ก็ ตอกย้ำความท้าทายของโลกดิจิทัลในภูมิภาคเอเชีย โดยบอกว่า สมาร์ทโฟน กำลังจะกลายเป็นดาวเด่น ที่ส่งประกายให้ภูมิภาคนี้ น่าสนใจ และ น่าลงทุน สำหรับทั่วโลก
การเติบโตของตลาดสมาร์ทโฟนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกคาดว่าจะถีบตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในปีหน้าไปจนถึงปี 2558 โดยฟรอสต์แอนด์ซุลลิแวนคาดการณ์ว่าสมาร์ทโฟนจะสามารถครองตลาดมือถือได้ถึง 54% ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้ภายใน 5 ปีข้างหน้า
ยอดขายของสมาร์ทโฟนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้เติบโต อย่างรวดเร็วในทุกประทศ รวมทั้งในญี่ปุ่นและเกาหลีซึ่งได้มีการเปลี่ยนจากโทรศัพท์ธรรมดามาเป็น สมาร์ทโฟนกันมากขึ้นจากการที่โอปะเรเตอร์ต่างก็ผลักดันให้ประชาชนหันมาใช้ สมาร์ทโฟนเพื่ออัพเกรดจาก 2จี เป็น 3จี
ปัจจุบัน สังคมออนไลน์บนโทรศัพท์มือถือถูกยกให้เป็นปัจจัยหลักที่มีส่วนผลักดันให้เกิดการกระตุ้นการใช้สมาร์ทโฟนในประเทศแถบเอเชีย
มาร์ค ไอน์สไตน์ นักวิเคราะห์จาก ฟรอสต์ แอนด์ ซุลลิแวน เปิดเผยว่า ปัจจุบันโอเปอเรเตอร์ในประเทศต่างๆ ให้ความสำคัญกับสมาร์ทโฟนเป็นอย่างมากเนื่องจากรายได้ต่อเดือนที่ได้จากผู้ ใช้สมาร์ทโฟนได้เพิ่มสูงขึ้น 25-100% โดยเฉพาะตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งนับว่าเป็นตลาดที่น่าสนใจสำหรับสมาร์ทโฟนเนื่องจากตลาดได้มีการขยาย ตัวอย่างรวดเร็ว อาทิ สาธารณรัฐประชาชนจีน อินเดีย อินโดนีเซีย โดยการเติบโตนี้รวมไปถึงผู้ใช้แบบพรีเพดอีกด้วย
จากผลการศึกษาวิเคราะห์ของบริษัท ฟรอสต์แอนด์ ซุลลิแวน เรื่อง 2010 Asia-Pacific Mobile Device & Smartphone Outlook พบ ว่า การใช้งานข้อมูลบนมือถือสมาร์ทโฟนมีมูลค่าสูงถึง 38 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2558 สำหรับประเทศในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก (รวมทั้งญี่ปุ่น) จากเดิม1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2009
แม้ว่ายอดขายของสมาร์ทโฟนจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังมีปัจจัยอีกหลายอย่างที่เป็นตัวขัดขวางการเติบโตของยอดขายดังกล่าว กล่าวคือ 80% ของตลาดผู้ใช้โทรศัพท์มือถือในภูมิภาคเอเชียเป็นแบบพรีเพด (Prepaid) และในบางประเทศจำนวนผู้ใช้แบบพรีเพดมีสูงถึง 97%
ดังนั้นการใช้งานบางอย่างที่รองรับเฉพาะระบบโพสต์เพดจึงแทบจะเป็นไปไม่ ได้ นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกเช่น การขาดแคลนของระบบไวไฟสาธารณะอีกด้วย
มีเพียงตลาดที่กำลังพัฒนาแล้วเท่านั้นที่เราจะได้เห็นยอดขายที่ เพิ่มขึ้นแบบเลขสองหลัก และจากการเติบโตที่ไม่มากนักของตลาดอื่นๆ การเติบโตของสมาร์ทโฟนจึงสำคัญมากเนื่องจากสามารถช่วยปิดช่องว่างและเพิ่ม ปริมาณยอดขายของทั้งตลาดโดยรวมได้ มาร์คให้ความเห็น
นอกจากนี้ มาร์คยังคาดการณ์ว่าภายในปี 2558 ตัวเลขของสมาร์ทโฟนที่ขายในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกจะสูงถึง 477 ล้านเครื่อง โดยสำหรับประเทศไทยยอดสมาร์ทโฟนจะเพิ่มสูงถึง 52% ภายในปี 2558 จากยอดเพียง 6.9% ในปี 2552
โลกทั้งโลก กำลังจับตา เอเชีย หากไม่ใช่เพราะมีประชากรที่มีมากที่สุดในโลก หากแต่ เอเชีย เป็นตลาดการลงทุนในเรื่องต่างๆ ที่ สด และ ใหม่ โดยเฉพาะความสามารถในการจับจ่ายสินค้าไฮเทค และแหล่งผลิตสินค้าไฮเทคที่กำลังกลายเป็นแหล่งต้นน้ำ และปลายน้ำที่สำคัญของโลก
|
|
http://www.adisorn.biz
2010-09-28 23:11:59 58.9.138.***
stat :
287 posts ,
2 replys
|
