กาแฟ (Coffee)
เครื่องดื่มในปัจจุบันที่เป็นที่นิยมที่สุดและหารับประทานง่ายคงหนีไม่พ้น "กาแฟ" เครื่องดื่มของหนุ่มสาวออฟฟิศ ที่นิยมกันอย่างมากทั้ง เอสเพรสโซ่ มอคค่า คาปูชิโน ลาเต้ และอีกมากมาย ซึ่งที่ทำให้กาแฟเหล่านี้เป็นที่นิยมก็เพราะมีร้านให้รับประทานมากมาย และสามารถนำไปรับประทานที่โต๊ะทำงานได้ ลดอาการง่วงนอนในระหว่างทำงานได้เป็นอย่างดี ยิ่งมีกระแสร้านกาแฟเป็นจุดนัดพบของหนุ่มสาวอีกด้วยแล้ว ทำให้ภาพยนต์หรือละครหลายเรื่องนำฉากในร้านกาแฟมาใช้ในภาพยนต์มากมาย ทำให้เกิดความเคยชิน และกลายเป็นกระแสนิยมจนถึงปัจจุบัน
ประเภทของกาแฟ
คาปูชิโน่ Cappuccino
มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิตาลี ซึ่งจะมีเอสเพรสโซ่ และนม เป็นส่วนผสมหลัก คนในประเทศอิตาลี ส่วนใหญ่มักมีการดื่มกาแฟชนิดคาปูชิโน่โดยเฉพาะในตอนเช้า ซึ่งก็อาจจะมีขนมปังแผ่นหรือคุ้กกี้ ประกอบด้วยการชงคาปูชิโนโดยส่วนใหญ่มักมีอัตราส่วนของเอสเพรสโซ 1/3 ส่วน ผสมกับนมสตีม (นมร้อนผ่านไอน้ำ) 1/3 ส่วน และนมตีเป็นโฟมละเอียด 1/3 ส่วนลอยอยู่ด้านบน นอกจากนั้นอาจโรยหน้าด้วยผงซินนามอน หรือ ผงโกโก้เล็กน้อยตามความชอบ ส่วนผสมของคาปูชิโนต่างจากของลาเต้ มาเกียโต้ (latte macchiato) ซึ่งประกอบไปด้วยนมเป็นส่วนใหญ่และนมตีโฟมเพียงเล็กน้อย
ลาเต้ Latte
สำหรับประเภทของกาแฟชนิดถัดมาก็คือ Latte ลาเต้เป็นภาษาอิตาลี ซึ่งมีความหมายที่แปลว่า นม ดังนั้น รสชาติจึงมีความหวานและมันจากนม ส่วนในประเทศอื่น จะหมายถึง กาแฟลาเต้ หรือเครื่องดื่มกาแฟที่เตรียมด้วยนมร้อน โดยการเทเอสเพรสโซ 1/3 ส่วน และนมร้อนอีก 2/3 ส่วน ลงในถ้วยพร้อมๆ กัน และจะหยอดโฟมนมหนาประมาณ 1 ซม. ทับข้างบน กาแฟลาเต้นี้เป็นที่นิยมอย่างมากนอกประเทศอิตาลีช่วงต้นทศวรรษที่ 1980 นอกจากนี้ กาแฟลาเต้ที่รู้จักกันในอิตาลี ยังมีความหมายที่ใกล้เคียงกับภาษาฝรั่งเศส "cafe' au lait" ซึ่งหมายถึง กาแฟกับนม ในการชงกาแฟลาเต้ บาริสต้า (หรือผู้ชงกาแฟที่ชำนาญงาน) จะใช้วิธีขยับข้อมือเล็กน้อยขณะที่รินนม และโฟมนมลงบนกาแฟ ทำให้เกิดลวดลายต่าง ๆ เรียกว่า ลาเต้อาร์ต (latte art) หรือศิลปะฟองนมในถ้วยกาแฟ
มอคค่า Mocca
เป็นกาแฟอราบิก้าชนิดหนึ่ง สำหรับที่มาของกาแฟมอคค่านี้ก็เนื่องจาก กาแฟมอคค่านี้เป็นกาแฟอราบิก้า ชนิดหนึ่งที่ปลูกอยู่บริเวณท่าเรือมอคค่า ในประเทศเยเมน ซึ่งกาแฟมอคค่านี้จะมีสีและกลิ่นคล้ายชอคโกแลต (แม้ว่าจะไม่มีส่วนประกอบของชอคโกแลตในมอคค่าเลยก็ตาม) ซึ่งก็นับว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของกาแฟมอคค่า มอคค่าจะคล้ายกับลาเต้คือมีเอสเพรสโซ่ 1/3 ส่วนและนมร้อน 2/3 ส่วน แต่แตกต่างกันที่มอคค่าจะมีส่วนผสมของช็อคโกแลตด้วย โดยมักจะใส่ในรูปของน้ำเชื่อมช็อคโกแลต เสิร์ฟได้ทั้งแบบร้อนและแบบเย็นใส่น้ำแข็ง มักมีวิปครีมปิดหน้า นอกจากนี้ มอคค่ายังหมายถึง สูตรกาแฟที่มีส่วนผสมระหว่างเอสเพรสโซ่และโกโก้อีกด้วย
เอสเพรสโซ่ Espresso
เอสเพรสโซ่ เป็นกาแฟที่มีรสชาติเข้มข้นที่สุด ซึ่งมีวิธีการชงโดยใช้แรงอัดไอน้ำหรือน้ำร้อนผ่านเมล็ดกาแฟคั่วที่บดละเอียด โดยที่มาของเอสเพรสโซ่นี้ มาจากคำในภาษาอิตาลี ที่แปลว่า เร่งด่วน เอสเพรสโซเป็นกาแฟที่นิยมมากที่สุดในแถบประเทศยุโรปตอนใต้ โดยเฉพาะประเทศอิตาลีและฝรั่งเศสการสั่งกาแฟ "caffe" ในร้านส่วนใหญ่แล้วจะสั่งเป็นกาแฟเอสเพรสโซ่ ด้วยวิธีการชงแบบใช้แรงอัด ทำให้เอสเปรสโซมีรสชาติกาแฟซึ่งเข้มข้นและหนักแน่น ต่างจากกาแฟทั่ว ๆ ไปซึ่งชงแบบผ่านน้ำหยด และเพราะรสชาติเข้มข้นและหนักแน่นอันเป็นเอกลักษณ์นี้เอง ทำให้คอกาแฟดื่มเอสเปรสโซโดยไม่ปรุงด้วยน้ำตาลหรือนม และมักจะเสิร์ฟเป็นชอต (แก้วแบบจอก)เพื่อให้ปริมาณไม่มากจนเกินไป (ประมาณ 1-2 ออนซ์ หรือ 30-60มิลลิลิตร แตกต่างตาม พฤติกรรมการดื่ม ของแต่ละประเทศ) การสั่งเอสเปรสโซตามร้านกาแฟทั่วไป มักสั่งตามปริมาณเป็น "ซิงเกิ้ล" หรือ "ดับเบิ้ล" (ชอตเดียว หรือ สองชอต)
อเมริกาโน Cafe Americano
อเมริกาโน มีวิธีการชงโดยเติมน้ำร้อนผสมลงไปในเอสเพรสโซ. การเจือจางเอสเพรสโซซึ่งเป็นกาแฟเข้มข้นด้วยน้ำร้อน ทำให้อเมริกาโนมีความแก่พอ ๆ กับกาแฟธรรมดา แต่มีกลิ่นและรสชาติที่เข้มอันมาจากเอสเพรสโซ อเมริกาโนเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกาแฟดำ แต่ไม่แก่และหนักถึงขั้นเอสเพรสโซคอกาแฟส่วนใหญ่นิยมดื่มอเมริกาโนโดยไม่ปรุงด้วยนมหรือน้ำตาล เพื่อดื่มด่ำกับรสชาติกาแฟของ
อเมริกาโนซึ่งแตกต่างจากกาแฟธรรมดา สำหรับที่มาของชื่ออเมริกาโนซึ่งหมายถึงสหรัฐอเมริกานั้น ว่ากันว่าเอสเพรสโซเพียว ๆ นั้น เข้มข้นเกินไป สำหรับคอกาแฟชาวอเมริกา จึงมีการเสิร์ฟกาแฟเอสเพรสโซซึ่งทำให้เจือจางด้วยน้ำร้อน. แม้ที่มาของชื่อจะหมายถึงกาแฟสไตล์อเมริกา แต่อเมริกาโนก็มิได้เป็นกาแฟที่ชาวอเมริกานิยมดื่ม จนกระทั่งยุครุ่งเรืองของร้านกาแฟแฟรนไชส์ สตาร์บัคส์ ในปี พ.ศ. 2533 แต่ถึงกระนั้นอเมริกาโนก็ไม่จัดเป็นกาแฟที่ได้รับความนิยมมากนัก