การดูดเสมหะด้วยสายดูดเสมหะ |
การดูดเสมหะ จะทำในผู้ป่วยที่มีเสมหะอุดกั้นทางเดินหายใจส่วนบน เนื่องจากผู้ป่วยไม่สามารถไอขับเสมหะออกมาได้ โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้
1. เพื่อขับเสมหะออกจากทางเดินหายใจส่วนบน 2. เพื่อกระตุ้นให้เกิดการไอขับเสมหะ 3. ป้องกันการสำลักสิ่งแปลกปลอมเข้าปอด เช่น น้ำ เลือด อาเจียน
|
การประเมินสภาพผู้ป่วย ก่อนการดูดเสมหะ
1. สังเกตลักษณะการหายใจค่อนข้างแรงมาก อัตราการหายใจเร็ว 2. ฟังเสียงปอดได้ยินเสียงเสมหะ (Adventitions sound) 3. ผู้ป่วยมีอาการรู้สึกเหนื่อย หายใจลำบาก ได้ยินเสียงดังขณะหายใจเข้าและหายใจออก 4. ลักษณะสีผิว เล็บ และริมฝีปาก มีอาการ Cyanosis 5. ผู้ป่วยมีอาการซึมลง 6. การไอไม่มีประสิทธิภาพที่จะขับเสมหะออกได้ 7. ลักษณะเสมหะ เหนียว และมีจำนวนมาก 8. ผู้ป่วยอาเจียนหรือขย้อนอาหารอยู่ในปาก
|
ช่องทางของการดูดเสมหะ มี 2 ช่องทาง ดังนี้
1. การดูดเสมหะทางจมูกและทางปาก (Nasopharygeal and Oropharyngeal Suctioning)
- การดูดเสมหะผ่านทางท่อหายใจทางจมูก Nasopharyngeal tube หรือ nasal airway ซึ่งมีลักษณะเป็นท่อยาวภายในกลวง ลักษณะของท่อโค้ง และมีความยืดหยุ่นให้สามารถสอดใส่เข้าทางรูจมูกผ่านไปถึงโพรงจมูกด้านหลัง (nasophgryngeal) ได้สะดวก
- การดูดเสมหะผ่านทางท่อหายใจทางจมูก Nasopharyngeal tube มักใช้ในกรณีผู้ป่วยขบกัด Oral airway บ่อย ๆ
- การดูดเสมหะผ่านทางท่อหายใจทางปาก (Oropharyngeal tube หรือ oral airway) ซึ่งเป็นท่อขนาดใหญ่กว่าสอดใส่เข้าทางปากผ่านช่องปาก (Oropharyngeal) ไปถึงโคนลิ้น
วิธีการใส่ Oral airway
- ให้ผู้ป่วยอ้าปาก แล้วใช้ไม้กดลิ้น - เพื่อให้ใส่ oral airway ได้ง่ายกดบริเวณกึ่งกลางลิ้น ไม่เกิดการบาดเจ็บในช่องปาก
- จับ Oral airway ในลักษณะหงายแล้วค่อย ๆ สอด Airway เข้าช่องปากทางด้านข้าง - เพื่อไม่ให้กระตุ้น gag reflex
- เมื่อส่วนปลายของ oral airway เข้าเลยตำแหน่งกึ่งกลางของลิ้น จึงตึงไม้กดลิ้นออก แล้วหมุน Oral airway กดลิ้นไว้ตาม Oral cavity พร้อมทั้งค่อย ๆ เลื่อนเข้าไปจน แนวโค้งของลิ้น Oral airway อยู่ในลักษณะคว่ำ
2. การดูดเสมหะทางท่อหายใจและท่อเจาะคอ (Endotracheal and tracheostomy Suctioning)
การดูดเสมหะทางท่อช่วยหายใจและทางท่อเจาะคอ ช่วยให้สามารถดูดเสมหะที่อยู่ในทางเดินหายใจส่วนล่างออกมาได้ง่าย โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว ไม่สามารถไอขับเสมหะออกได้ การใส่ Endotracheal tube เข้าทางปาก (orotracheal) หรือทางจมูก (nasotracheal) โดยผ่าน epiglottis และ vocalcord เข้าสู่ trachea อย่างไรก็ตามการใส่ Endotracheal tube สามารถใส่ไว้ได้นานไม่เกิน 3-4 สัปดาห์ จึงเปลี่ยนเป็น tracheostomy tube ซึ่งเป็นการใส่เข้าสู่ trachea โดยตรง
ข้อควรระวังในการดูดเสมหะ
การระคายเคืองต่อเยื่อบุทางเดินหายใจ ขณะใส่สายดูดเสมหะให้เปิดด้านหนึ่งของตัวต่อ ป้องกันการดูดอากาศออกมากเกินไป และจนกว่าสายดูดเสมหะเข้าไปถึงที่ต้องการ จึงปิดรู เพื่อให้เกิดแรงดูด ขณะดูดเสมหะให้หมุนสายยางไปรอบ ๆ และค่อย ๆ ดึงสายดูดเสมหะขึ้นมา
ถ้าเสมหะเหนียวมาก ให้หยดน้ำเกลือ NSS ประมาณ 3-5 มล. ลงไปในท่อหลอดลม ช่วยละลายเสมหะให้อ่อนตัวลง ทำให้ดูดเสมหะออกได้ง่าย
ภาวะขาดออกซิเจน ควรให้ผู้ป่วยได้รับออกซิเจนก่อนดูดเสมหะทุกครั้ง ประมาณ 30 วินาที 2 นาที หรือบีบ Ambu beg ต่อออกซิเจน 3-6 ครั้ง และ ให้ออกซิเจนหลังดูดเสมหะอีกครั้งนานประมาณ 1-5 นาที หรือบีบ Ambubay เพื่อ ช่วยขยายปอด ป้องกันภาวะปอดแฟบ
ภาวะปอดแฟบ (Lung atelactasis) จากการดูดซ้ำหลาย ๆ ครั้ง ฉะนั้น ควรดูดเมื่อมีเสมหะ หรือเมื่อจำเป็น การดูดแต่ละครั้งไม่ควรเกิน 5-10 วินาที และห่างกันประมาณ 3 นาที |
|
ที่มา : http://www.healthcareplus2u.com/Health%20News4.html
เครื่องดูดของเหลว Suction Unit
รุ่น 9E-A
|
- ใช้ดูดเสมหะหรือของเหลวผู้ป่วยในบ้าน - แรงดูดสูง , ใช้งานได้ต่อเนื่อง - มีฟิวเตอร์ ป้องกันแบคทีเรีย
|
รุ่น 9E-B
|
เครื่องดูดเสมหะ แบบมีแบตเตอรี่ในตัว
-ใช้ดูดเสมหะหรือของเหลวผู้ป่วยในบ้าน หรือ เคลื่อนที่ได้ -แรงดูดสูง , ใช้งานได้ต่อเนื่อง -มีฟิวเตอร์ ป้องกันแบคทีเรีย
|
รุ่น 9A-26B
|
-ใช้ดูดเสมหะหรือของเหลวผู้ป่วยในโรงพยาบาล หรือห้องผ่าตัด -แรงดูดสูงไม่น้อยกว่า 20 ลิตรต่อนาที , ใช้งานได้ต่อเนื่อง -มีฟิวเตอร์ ป้องกันแบคทีเรีย
|
รุ่น Wall Suction
|
-Suction Regulator / Suction Pipeline -Quick switch for Reg/ Off/ Full Vaccum -Vacuum Rang 0-760 mm.Hg
|
รุ่น Suction pump VTS32 |
-แบบต่อเนื่อง (Continuous)
-แบบเป็นจังหวะ (Intermittent) |
หจก.ประเสริฐเฮลท์แคร์พลัส
สามารถสอบถามได้โดยตรงผู้แทนขาย คุณชูศักดิ์ 089-129-3675
56/28-30 หมู่ที่ 3 ถนนปทุมธานี - สามโคก ตำบลบางโพธิ์เหนือ
อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี 12160
โทรศัพท์ 02- 5813706 ,
02-5813698 โทรสาร 02-5813706
http://www.healthcareplus2u.com/Suction_Unit.html